การเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุม switch นั้นค่อนข้างยุ่งยากเมื่อต้องควบคุม relay จำนวนมาก หนึ่งในวิธีการที่ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ดีที่สุด คือ การใช้ซอฟต์แวร์ในการตั้งค่าการปิด/เปิดรีเลย์เพื่อกำหนดทางเดินของสัญญาณในแบบต่าง ๆ แล้วเขียนโปรแกรมเพื่อเรียกใช้ทางเดินสัญญาณที่เราตั้งค่าไว้ Switch Path Manager เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับงานลักษณะนี้โดยเฉพาะ คุณสมบัติเด่น ๆ ของ Switch Path Manager ได้แก่
– ช่วยจัดการระบบ switch ที่มีความซับซ้อน
– ลดเวลาในการพัฒนาระบบ switch
– ช่วยในการดีบั๊กและควบคุมระบบ switch
– สามารถใช้งานได้กับ Pickering switch ทั้ง LXI/USB, PCI และ PXI/PXIe
– รองรับการเขียนโปรแกรมด้วย C, .NET, LabVIEW, Python และ CVI
– มีระบบ safety ป้องกันการลัดวงจร
สำหรับการใช้งาน Switch Path Manager เพื่อตั้งค่าทางเดินสัญญาณนั้นมีขั้นตอนง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอน ได้แก่
1. เปิด Switch Path Manager โดยคลิ๊กที่ 
บน desktop แล้วทำการสร้าง project แล้วเพิ่ม switch ที่ต้องการใช้งานเข้าไปใน project หลังจากนั้นจึงตั้งค่า Address ของ switch แต่ละตัว
2. เลือก Endpoints แล้วตั้ง Endpoint Name ของ switch แต่ละตัว เราสามารถตั้ง Signal Isolation ของ endpoint ให้เป็น Never เพื่อป้องกันการลัดวงจรกับ endpoint อื่น ๆ ได้
3. เลือก Wiring แล้วแล้วทำการ Add wiring ที่เราต่อ endpoint แต่ละจุดเข้าด้วยกันจริง ๆ หากเราตั้ง Signal isolation ของ endpoint นั้นเป็น Never แล้ว wiring ที่ตั้งค่าจะเป็นสีแดงหากมีการลัดวงจรเกิดขึ้น เสร็จแล้วกด 
เพื่อบันทึก project นอกจากนี้เรายังสามารถเลือก Routes, Multi-Point Routes, Route Groups, Relay Groups และ Sequencing เพื่อตั้งค่าทางเดินสัญญาณและลำดับในการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ได้ โดยนอกจากการตั้งวิธีการเชื่อมต่อทางเดินสัญญาณแล้วเรายังสามารถตั้งชื่อให้แต่ละการตั้งค่าเพื่อที่จะสามารถเรียกใช้ด้วย API ได้โดยสะดวก
4. เปิด SPM Soft Front Panel โดยเลือก Workbench Explorer>Extensions>SPM Soft Front Panel เลือกแท๊บ Switching Endpoints แล้วตั้งค่า Starting Endpoint List และ Target Endpoint(s) List ติ๊ก Enable แล้วกด Run List เพื่อเชื่อมต่อแต่ละ endpoint ตามลำดับที่ตั้งไว้ โดยเราสามารถดูการเปลี่ยนแปลงได้ที่ switching control center ใน Switch Path Manager
ในส่วนของลิขสิทธิ์นั้น Switch Path Manager มีลิขสิทธิ์สำหรับพัฒนา 2 แบบให้เลือกใช้งาน คือ Lite และ Pro ซึ่งมีข้อแตกต่างเพียงประการเดียว คือ Switch Path Manager Lite ถูกจำกัดให้ใช้งานได้กับ switch เพียง 2 โมดูลเท่านั้นในขณะที่ Switch Path Manager Pro ใช้ได้กับโมดูลไม่จำกัดจำนวนโดยทั้งสองรุ่นมีลิขสิทธิ์แบบ site license ซึ่งหมายความว่าหนึ่งลิขสิทธิ์ครอบคลุมการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในไซต์งานนั่นเอง อีกลิขสิทธิ์หนึ่งสำหรับใช้งานแบบ deployment คือ TSL (Turn Key Solution) ซึ่งสามารถเรียกใช้งานการตั้งค่า switch แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้ ทั้งนี้เราสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งรุ่นทดลองใช้งาน 14 วันได้จาก Switch Path Manager Evaluation
หวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้ที่จำเป็นในการลดความยุ่งยากในการโปรแกรม switch ด้วย Switch Path Manager หากผู้อ่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อทีมงาน ติดต่อ ทีมงาน เทคสแควร์ ได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
เริ่มต้นใช้งาน switch แบบ PXI จาก Pickering