บทความนี้สอนการใช้งาน FlexLogger Lite ในการบันทึกสัญญาณด้วยโมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นของ NI รวมถึง NI mioDAQ โดยในขั้นแรกนั้น ผู้ใช้ต้องทำการติดตั้งซอฟต์แวร์ FlexLogger 2024 Q3.1 (สามารถติดตั้งเวอร์ชั่นเก่ากว่าหากไม่ได้ใช้งาน mioDAQ) ด้วย NI Package Manager โดยการติดตั้ง FlexLogger นั้นจะเป็นเวอร์ชั่น Lite โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้การติดตั้ง FlexLogger จะทำการอัพเดท NI DAQmx ให้โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้เพื่อบันทึกสัญญาณด้วย FlexLogger Lite
1. เปิดโปรแกรม FlexLogger
2. เลือก File » New » Project เพื่อสร้างโปรเจ็คท์ใหม่
3. ทางด้านซ้ายมือของ FlexLogger จะมีหน้าต่าง Navigation pane ซึ่งจะมีแท๊บย่อยสองแท๊บ ได้แก่
- Project Files: ใช้สำหรับดูไฟล์ต่าง ๆ ที่มีการใช้งานใน FlexLogger ได้แก่
ประเภทของไฟล์ | การใช้งาน |
---|---|
Channel Specification (.flxio) | ตั้งค่าช่องสัญญาณอินพุท เอาท์พุทและสัญญาณเตือน |
Logging Specification (.flxcfg) | ตั้งค่าการบันทึกสัญญาณและทริกเกอร์ |
Test Specification (.flxtest) | ตั้งค่าการควบคุมสัญญาณเอาท์พุทอัตโนมัติ |
Screen (.flxscr) | หน้าจอสำหรับตรวจสอบและควบคุมสัญญาณ ณ ขณะนั้น |
- Data: ใช้สำหรับดูสัญญาณที่ทำการบันทึกไว้
4. ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ .flxio เพื่อทำการตั้งค่าช่องสัญญาณใน Channel Specification โดยประเภทของช่องสัญญาณที่สามารถทำการตั้งค่าได้ ได้แก่
- Analog Input: กดปุ่ม เพื่อทำการตั้งค่าเซนเซอร์ที่จะทำการวัดและค่าอื่น ๆ เช่น ช่วงของสัญญาณ เป็นต้น ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งความเร็วในการอ่านสัญญาณ (Data Rate) เป็นแบบ Slow, Medium หรือ Fast โดยผู้ใช้งานสามารถกด บนทูลบาร์เพื่อตั้งค่าความเร็วสำหรับแต่ละ Data Rate ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเสกลสำหรับแปลงค่าที่อ่านจากช่องสัญญาณเป็นค่าทางฟิสิกส์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
- Analog Output: กดปุ่ม เพื่อทำการตั้งค่าเอาท์พุทอะนาล็อก ได้แก่ แรงดัน/กระแสไฟฟ้า, ช่วงสัญญาณ และค่าสัญญาณ
- Digital Lines: กดปุ่ม เพื่อทำการตั้งค่าช่องสัญญาณดิจิตอล โดยผู้ใช้งานสามารถเขียนค่าลงไปยังเอาท์พุทหรือเชื่อมโยงค่าระหว่างเอาท์พุทและอินพุทดิจิตอลเข้าด้วยกัน สามารถตั้งการกลับค่าลอจิคสำหรับช่องสัญญาณอินพุท นอกจากนี้ยังสามารถตั้งความเร็วในการอ่านและเขียนสัญญาณได้อีกด้วย
- Counter: กดปุ่ม เพื่อทำการตั้งค่าสัญญาณที่ต้องการวัด เช่น ความถี่, ความกว้างพัลส์ หรือดิวตี้ไซเคิล เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเสกลสำหรับแปลงค่าที่อ่านจากเคานเตอร์เป็นค่าทางฟิสิกส์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
หากไม่พบช่องสัญญาณที่ต้องการตั้งค่า ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่ม Add channels เพื่อเพิ่มช่องสัญญาณได้
5. ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ .flxcfg เพื่อตั้งค่าการบันทึกสัญญาณ ผู้ใช้งานสามารถทำการตั้งค่าโฟลเดอร์สำหรับบันทึกสัญญาณและชื่อของไฟล์ที่จะทำการบันทึก โดยไฟล์ที่ทำการบันทึกจะเป็นฟอร์แมท tdms นอกจากนี้เรายังสามารถทำการตั้งค่าอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ดังต่อไปนี้
- ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมไปยังไฟล์ที่บันทึก
- สำรองข้อมูลอัตโนมัติโดยตั้งค่าโฟลเดอร์และชื่อไฟล์ที่ทำการสำรองข้อมูล
- แบ่งการบันทึกออกเป็นหลาย ๆ ไฟล์เพื่อทำการจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- ลดความเร็วในการบันทึกข้อมูล
- แปลงไฟล์เป็นฟอร์แมท csv โดยอัตโนมัติ
6. กด RUN เพื่อทำการบันทึกสัญญาณและกด STOP เพื่อหยุดการบันทึกสัญญาณ
7. หากต้องการดูค่าสัญญาณ ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ .flxscr เพื่อเปิดหน้าจอสำหรับดูค่าสัญญาณ โดยเราสามารถทำการวางอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ จากพาเลทท์ทางด้านซ้ายลงบนหน้าจอ แล้วกดปุ่ม เพื่อเลือกช่องสัญญาณที่ต้องการดูค่า
8. หากต้องการบันทึกโปรเจ็คท์ให้เลือก File» Save All จากนั้นให้ตั้งชื่อโปรเจ็คท์และโฟลเดอร์สำหรับบันทึกโปรเจ็คท์แล้วกด Save ไฟล์ที่บันทึกจะเป็นฟอร์แมท .flxproj
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถอัพเกรด FlexLogger จากเวอร์ชั่น Lite เป็นเวอร์ชั่น Professional เพื่อใช้งานความสามารถอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ดังตารางด้านล่าง
หวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้เบื้องต้นที่จำเป็นในการบันทึกสัญญาณจากโมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นและ mioDAQ ของ NI ด้วย FlexLogger Lite หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน FlexLogger, โมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นและ mioDAQ ของ NI กรุณา ติดต่อทีมงานเทคสแควร์