บ่อยครั้งในการอ่านสัญญาณนั้น เราไม่ได้อ่านแรงดันไฟฟ้าหรือกระแสไฟฟ้าโดยตรงหากแต่เราอ่านสัญญาณจากเซนเซอร์ซึ่งจำเป็นต้องมีโมดูลแปลงสัญญาณต่าง ๆ เหล่านี้มาเป็นแรงดันไฟฟ้า โมดูลเหล่านี้คือหัวใจหลักของ CompactDAQ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานร่วมกับโมดูลที่วัดสัญญาณแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าทั้งในรูปแบบแอนะล็อกและดิจิตัล นอกจากนี้ยังสามารถรองรับเซนเซอร์ที่หลากหลาย เช่น
- thermocoule
- RTD
- LVDT
- strain gage
- load cell
- ความต้านทาน
- CAN
- LIN
- ความเร่ง เสียงและการสั่นสะเทือน
- และอื่น ๆ
นอกจากความสามารถในการรองรับเซนเซอร์ที่หลากหลาย CompactDAQ ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน เช่น
- ถูกออกแบบให้มีความทนทาน สามารถใช้งานกลางแจ้งได้เป็นเวลายาวนาน
- มีช่องใส่โมดูลให้เลือกตั้งแต่ 1 ถึง 14 ช่องตามความต้องการใช้งาน
- รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Ethernet, USB และ Wifi
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ TSN
- มีซอฟต์แวร์สำเร็จรูปให้เริ่มใช้งานโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม
- รองรับการเขียนโปรแกรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น C, LabVIEW, .NET หรือ Python
- มีโมดูลสำหรับทำการซิงโครไนส์ระหว่างแชสซี
- มี timing engine สามชุดเพื่อรองรับอินพุตแบบแอนะล็อกที่ความเร็วแตกต่างกัน
- มีวงจรนับสำหรับวัดหรือสร้างสัญญาณพัลส์ 4 วงจร
โดยในการเลือกใช้งาน CompactDAQ นั้นมีขั้นตอนง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน
1. เลือกโมดูลตามชนิดของสัญญาณและเซนเซอร์ที่เราจะทำการวัดหรือสร้างสัญญาณ
2. เลือกขนาดของ CompactDAQ ตามจำนวนเซนเซอร์ที่ต้องใช้
3. เลือกการเชื่อมต่อที่สามารถรองรับโมดูลตามที่เราต้องการใช้งาน
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเลือกใช้ CompactDAQ ได้ตามความต้องการ โดยลูกค้าสามารถเลือกโมดูลและ CompactDAQ ได้จาก ที่นี่
หวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้ที่จำเป็นในการเลือกใช้งาน CompactDAQ ให้เหมาะสมกับความต้องการ หากผู้อ่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อทีมงาน ติดต่อ ทีมงาน เทคสแควร์ ได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
การใช้งาน FlexLogger Lite ในการบันทึกสัญญาณด้วยโมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นและ mioDAQ ของ NI
การใช้งาน DAQ Assistant เพื่อติดต่อกับโมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นของ NI
การตั้งค่าโมดูลดาต้าแอคควิซิชั่นของ NI ด้วยโปรแกรม NI MAX (Measurement & Automation Explorer)
การเลือกใช้โมดูลของ NI เพื่อทำการอ่านสัญญาณจากเซนเซอร์ Rosette ในการทดสอบความเค้นของแผงวงจร