บทความนี้ เป็นการสอน ให้ ผู้ใช้ สามารถ สร้างรายงาน ที่สามารถสรุปว่าคอมพิวเตอร์ เครื่องนั้น ๆ มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ หรือติดตั้งซอฟต์แวร์อะไรของ NI ไว้บ้าง รวมถึงการสร้างรายงานสำหรับ remote system เช่น NI CompactRIO, NI myRIO เป็นต้น
ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
- Measurement and Automation Explorer (MAX)
- LabVIEW
คำถาม
ผู้ใช้ สามารถ สร้างรายงาน ที่สามารถสรุปว่าคอมพิวเตอร์ เครื่องนั้น ๆ มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์ หรือติดตั้งซอฟต์แวร์อะไรของ NI ไว้บ้าง รวมถึงการสร้างรายงานสำหรับ remote system เช่น NI CompactRIO, NI myRIO ได้อย่างไร?
คำตอบ
วิธีสร้างรีพอร์ตโดยใช้ NI MAX (NI Measurement & Automation Explorer)
1.เปิด MAX Report Wizard โดยเลือกที่ File»Create Report
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_01-3.png)
2. เลือก My System เพื่อสร้างรีพอร์ตสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ หรือเลือก remote system เพื่อสร้างรีพอร์ตสำหรับระบบการเชื่อมต่อระยะไกล เช่น NI CompactRIO, NI myRIO เป็นต้น
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_02.png)
3. ผู้ใช้สามารถสร้างรีพอร์ตแบบ HTML ได้ 3 ประเภทดังนี้
- Simple report: ประกอบไปด้วยรายการ MAX configuration ทั้งหมดและไอคอน
- Custom report: ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะรายการที่ต้องการสร้างรีพอร์ตได้
- Technical support report: ประกอบกอบไปด้วยรายละเอียดทั้งหมดที่จำเป็น แนะนำให้เลือกหัวข้อนี้ หากผู้ใช้ต้องการส่งรายงานให้แผนก Technical Support ในการช่วยแก้ปัญหา
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_03.png)
4. ผู้ใช้สามารถแนบไฟล์เพิ่มเติมในได้ขั้นตอนนี้ หากมีไฟล์อื่น ๆ ที่ต้องการรวมไว้ในรีพอร์ต โดยคลิก Add เพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการ แล้วคลิก Next
5. เลือกตำแหน่ง และตั้งชื่อไฟล์ ของรีพอร์ตที่ต้องการ
6. คลิก Generate เพื่อสร้างรีพอร์ต
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_04.png)
วิธีสร้างรีพอร์ตโดยใช้ LabVIEW เขียนโปรแกรม
1.เปิดโปรแกรม LabVIEW
2.ไปที่ Help»Find Examples
3.พิมพ์หาคำว่า “ Max Report” ในช่อง Enter Keyword(s)
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_05-1.png)
4.ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ตัวอย่างที่ชื่อ Generate Max Report.vi โปรแกรม LabVIEW จะแสดงข้อมูลไฟล์ตัวอย่างนี้
5.เลือก Report Type ที่ต้องการดึงข้อมูลจากหน้า Front Panel
6.ที่ File Path control ให้ใส่ชื่อไฟล์พร้อมกับสกุลไฟล์ เช่น .zip ในช่อง technical support type โดยผู้ใช้สามารถคลิก Open icon เพื่อใช้เลือกไฟล์ได้
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_06.png)
7.Run VI เพื่อทำการสร้างรีพอร์ต
ข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างรีพอร์ตได้โดยตรงจาก command line โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรม NI MAX ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่ฐานข้อมูลของโปรแกรม NI MAX มีปัญหา โดยผู้ใช้สามารถส่ง special arguments ไปที่ MAX Executable ได้เลย
1.เปิด command prompt แล้วไปที่โฟลเดอร์ที่มีไฟล์ NIMax.exe อยู่ ตำแหน่งของโฟลเดอร์ขึ้นอยู่กับการติดตั้งซอฟต์แวร์ของ National Instruments ไว้ โดยตำแหน่ง default คือ <Program Files (x86)>\National Instruments\MAX\ หากต้องการเปลี่ยน file path ให้ใช้ cd command แล้วใส่ directory ที่ต้องการย้ายไป อ้างอิงตัวอย่าง ได้จากรูปด้านล่าง
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_07.png)
2.เมื่อพบตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ให้ใส่พารามิเตอร์ที่ต้องการคำสั่งการสร้าง MAX report คือ nimax /REPORT เพื่อสร้างรีพอร์ตออกมา โดยอ้างอิงจาก syntax ตามตัวอย่างด้านล่างนี้
nimax /REPORT:fileName=”<absolute path to a file>”;reportType=”<custom|simple>”;silent=”<true|false>”
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_08-1024x84.png)
พารามิเตอร์ประกอบด้วย
- filename (ต้องมี) คือ ชื่อไฟล์ที่ต้องการสร้างรีพอร์ต ต้องเป็น absolute path ของไฟล์นั้นๆ โดยผู้ใช้สามารถกำหนดนามสกุลของรีพอร์ตได้ 3 แบบ ได้แก่ .htm, .html, และ xml หากใช้นามสกุลไฟล์ที่ไม่ถูกต้อง NI Max จะไม่สามารถสร้างรีพอร์ตให้ได้ คำเตือน: หากมีการตั้งชื่อไฟล์ซ้ำไฟล์เดิม จะเป็นการเขียนทับโดยไฟล์ไหม้ โดยไม่มีการแจ้งเตือน
- reportType (ไม่จำเป็น) คือ การกำหนดรูปแบบของรีพอร์ต โดยผู้ใช้สามารถกำหนดได้ 2 แบบ ได้แก่ simple (แบบไม่มีรายละเอียด) หรือ custom (แบบมีรายละเอียด) ซึ่ง custom ถือเป็นค่า default
- silent (ไม่จำเป็น) คือ การกำหนดการแจ้ง error โดยผู้ใช้สามารถกำหนดได้ 2 แบบ ได้แก่ true หรือ false หากกำหนดเป็น true แล้วจะไม่มีการแจ้ง error หรือ completion status ใด ๆ ซึ่ง True ถือเป็นค่า default
หมายเหตุ:
- NI MAX อาจใช้เวลาประมาณ 1 – 2 นาทีในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดสำหรับรีพอรต์ จะไม่มีข้อมูลใดๆแสดงให้เห็นในขั้นตอนนี้ จะมีข้อความที่แสดงว่าขั้นตอนนี้สำเร็จหากมีการกำหนดเงื่อนไข silent=”false” เท่านั้น
![](https://www.techsquare.co.th/wp-content/uploads/2020/04/max_technical_report_thailand_09.png)
- NI MAX จะไม่สามารถประมวลคำสั่งที่มี broken syntax โดยไม่มีการแจ้งและจะระงับการดึงรีพอร์ตทันที
- ผู้ใช้ควรสังเกต เครื่องหมาย ฟันหนู (Quotes) ให้ถูกต้อง
- พารามิเตอร์เป็น case-insensitive
- ควรแยกแต่ละพารามิเตอร์ด้วย semicolons ( ; ) โดยไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
- การสร้างรีพอร์ตสำหรับ remote system ยังไม่สามารถทำได้ด้วย command line หากต้องการสร้างรีพอรต์สำหรับ remote system ต้องใช้ MAX Technical Report Wizard ในขั้นตอนแรกเท่านั้น
ผู้ใช้สามารถอ้างอิง การใช้ command line ในการสร้างรีพอร์ตที่ถูกต้อง ได้ตามตัวอย่างด้านล่าง
- nimax /REPORT:fileName=”C:\reports\my_file.html”
- nimax /REPORT:fileName=”C:\users\myusername\desktop\my_file.htm”
- nimax /REPORT:fileName=”C:\reports\my_file.xml”;reportType=”custom”
- nimax /report:fileName=”C:\reports\my_file.htm”;Silent=”false”
- nimax /report:fileName=”C:\reports\my_file.htm”;reportType=”simple”;Silent=”false”