การเลือกใช้ PicoScope

ซีรี่ส์

ช่องสัญญาณอะนาล็อก

ความละเอียด

ช่องสัญญาณดิจิตอล

แบนด์วิธ

แซมปลิ้งเรท

หน่วยความจำ

FGEN และ AWG

ลักษณะการใช้งาน

2000

2, 4

8 บิต

16 ช่อง

10 – 100 MHz

1 GS/s

8 kS – 128 MS

มี

ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะกับการใช้งานขั้นพื้นฐานกับการอ่านสัญญาณระยะเวลาสั้น ๆ

3000

2, 4

8 บิต

16 ช่อง

50 -200 MHz

1 GS/s

64 MS – 512 MS

มี

ด้วยหน่วยความจำและแบนวิธที่มากกว่า ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับการอ่านสัญญาณทั่ว ๆ ไป

4000

2, 4, 8

12 – 16 บิต

ไม่มี

5 – 20 MHz

80 MS/s

10 MS – 256 MS

เกือบทุกรุ่น

ด้วยความละเอียดที่มากกว่า รุ่นนี้เหมาะสำหรับสัญญาณที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น เสียงและการสั่นสะเทือน นอกจากนี้ บางรุ่นยังมีช่องสัญญาณมากถึง 8 ช่อง

5000

2, 4

8, 16 บิต

16 ช่อง

60 – 200 MHz

1 GS/s

10 MS – 256 MS

ไม่มี

นอกจากจะมีความละเอียดสูงแล้ว รุ่นนี้ยังมีแบนวิธกว้างเหมาะกับการวิเคราะห์สัญญาณที่ต้องการความละเอียดและมีความถี่สูง

6000

4, 8

8 บิต, 8 – 12 บิตแบบเฟล็กซิเบิ้ล

เลือกได้ถึง 16 ช่อง

300 MHz – 1  GHz

5 GS/s

1 – 4 GS

ไม่มี

จัดเป็นรุ่นสมรรถนะสูงด้วยแบนวิธและหน่วยความจำที่มากกว่า เหมาะสำหรับใช้งานกับสัญญาณความถี่สูงหรือต้องการอ่านสัญญาณยาวนานกว่า

9300

2, 4

16 บิต

ไม่มี

20 – 30 GHz

1 MS/s (15 TS/s Sequential equivalent-time)

ไม่มีข้อมูล

มีช่องกำเนิดสัญญาณสำหรับวัด TDR/TDT

ด้วยเทคนิคการแซมปลิ้งและแบนวิธสูง ออสซิลโลสโคปรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทางด้านโทรคมนาคมและวิเคระห์สัญญาณความถี่สูง เช่น การวัด TDR/TDT, Eye Diagram และ Optical

9400

2, 4

12 บิต

ไม่มี

5, 16 GHz

500 MS/s (1 TS/s, 2.5 TS/s random equivalent-time)

250 kS

ไม่มี

ด้วยเทคนิคการแซมปลิ้งและแบนวิธสูง ออสซิลโลสโคปรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทางด้านโทรคมนาคมและวิเคระห์สัญญาณความถี่สูง เช่น การวัด Eye Diagram และ Mask test (ข้อดีเหนือ 9300 คือ รองรับการอ่านดาต้าก่อนทริกเกอร์และไม่ต้องการช่องสัญญาณแยกสำหรับทริกเกอร์ทำให้การต่อสัญญาณง่ายกว่า)